วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปวิจัย เรื่องความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาตร์นอกห้องเรียน








ชื่องานวิจัย  ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาตร์นอกห้องเรียน 

ผู้ทำการวิจัย  สุมาลี   หมวดไธสง

มหาวิทยาลัย   มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ


บทที่ 1 บทนํา 
ความเป็นมาและความสําคัญของปัญหา
         การวิจัยครั้งนี้เป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด้กปฐมวัยโดยได้รับการจัดกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน และเป็นแนวทางในการใช้วิธีการสอนแบบการจัดกิจกรรมให้ผู้ดูแลและผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัยนำไปพัฒนาทักษะด้านอื่นๆให้แก่เด็กต้องเป็นการส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของเด็กปฐมวัยต่อไป
วัตถุประสงค์ของการศึกษา

  1. เพื่อศึกษาระดับความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน
  2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน


ขอบเขตของการศึกษา


  1.  กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นเด็กปฐมวัยอายุ 5-6 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 3 เรียนในภาคเรียนที่ 2/2553 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ  จํานวน 180 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยสุ่มมา  1  ห้องเรียน จำนวน 30
  2. ตัวแปรที่ศึกษา  
  • ตัวแปรอิสระ
  • กิจกรรมกระบวนการการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน
  • ตัวแปรตาม
  • ความสามารถในการคิดวิเคราะห์






บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

การศึกษาในครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ศึกษา และค้นคว้าจากหนังสือ เอกสารและตําราต่างๆ พร้อมทั้งงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้คือ

  1. การจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
  2. การจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือนอกสถานที่
  3. การคิดวิเคราะห์
สรุปได้ว่า  การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง ทำให้เกิดการเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว เด็กจะได้รับประสบการรณ์ตรงและส่งเสริมทักษะความสามารถด้านประสาทสัมผัส  อีกทั้งยังสามารถพัฒนาความคิดวิเคราะห์ให้มีระบบแบบแผน

บทที่ 3
วิธีดําเนินการศึกษา

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเรื่องการสร้างหนังสือภาพเพื่อเตรียมทางคณิตศาสตร์ สําหรับเด็กปฐมวัย โดยกําหนดขั้นตอนในการดําเนินการดังนี้
1. กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นเด็กปฐมวัยอายุ 5-6 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 3 เรียนในภาคเรียนที่ 2/2553 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ  จํานวน 180 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยสุ่มมา  1  ห้องเรียน จำนวน 30
2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

  1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในกิจกรรมวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน
  2. แบบทดสอบในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัย 

  • การจัดหมวดหมู่
  • การหาความสัมพันธ์
3. การเก็บรวบรวมข้อมูล
  1. สร้างความคุ้นเคยกับกลุ่มตัวอย่างเป็นเวลา   8 สัปดาห์ 
  2. นำแบบทดสอบการคิดวิเคราะห์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมาทดสอบก่อนทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง
  3. ดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้กิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนเป็นเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 40 นาที
  4. เมื่อดำเนินการทดลองครบ 8 สัปดาห์ ผู้วิจัยทำการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้แบบทดสอบการคิดวิเคราะห์ฉบับเดียวกับแบบทดสอบที่ใช้ก่อนการทดสอบอีกครั้ง
  5. นำข้อมูลที่ใช้ได้จากการทดสอบการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยไปวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติเพื่อทดสอบสมมติฐานและสรุปผลการทดลอง
4. การวิเคราะห์ข้อมูล 
  1. หาค่าสถิติพื้นฐานของคะแนนจากแบบทดสอบความสามารถในการคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหา ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
  2. เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการทดลองT-Test แบบ  Dependent Samples 



บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

  1. ผลการศึกษาระดับความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนของระดับความสามารถในการคิดวิเคราะห์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
  2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01


บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ



               การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนและเพื่อเปรียบเทียบความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน
                กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ เด็กปฐมวัยอายุ 5-6 ปี ชั้นอนุบาลปีที่ 3 เรียนในภาคเรียนที่ 2/2553 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ  จํานวน 180 ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยสุ่มมา  1  ห้องเรียน จำนวน 30
                 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่   แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในกิจกรรมวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน และแบบทดสอบในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัย (การจัดหมวดหมู่ , การหาความสัมพันธ์ )


สรุปผลการศึกษา

  1. ผลการศึกษาระดับความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนของระดับความสามารถในการคิดวิเคราะห์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
  2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.01





การนำไปประยุกต์ใช้

*การจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน
              กระบวนการทางวิทยาศาตร์สำหรับเด็กปฐมวัยนั้นประเด็นที่สำคัญต่อการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาตร์ให้เด็ก คือ การเปิดโอกาสให้เด็กใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 โดยการสัมผัส จับต้อง ดม ชม ได้ยินโดยในการสังเกต การสำรวจ การค้นคว้า การทดลอง หรือจะนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ด้วยก็ได้(การกำหนดปัญหา การตั้งสมมุติฐาน การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และการสรุปผลประเมินผล) หรือจะการถามคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เด็กได้รับด้วย เพราะจะทำให้เด็กมีพัฒนาการคิด รู้จักหาคำตอบแบบวิทยาศาสตร์และวิเคราะห์อย่างเป็นระบบได้
               การที่พาเด็กไปศึกษาเรียนรู้ดูชีวิตจริง สถานที่จริงนั้นเด็กจะได้รับประสบการณ์ตรงกับสถานที่และสิ่งที่ไปศึกษาจริง แล้วจะทำให้เด็กยังได้รับประสบการณ์อย่างกว้างขว้าง เกิดความสนุกสนานตื่นเต้นอีกด้วย
               การจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนนั้นมีหลายขั้นตอน ดังนั้นควรพิจารณาองค์ประกอบของกิจกรรมที่เหมาะสำหรับการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยในแต่ละช่วงวัย และในการจัดกิจกรรมนั้นจะต้องจัดให้หลากหลายครอบคลุมกับองค์ประกอบของกิจกรรม แต่ในทั้งนี้การจัดกิจกรรมให้กับเด็กก็จะต้องควรคำนึงถึงความสนใจ ความพร้อม และความสามรถของเด็กด้วย



*ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ระดับพื้นฐาน

  • การสังเกต (Obervation)
  • การวัด (Measurenent)
  • การจําแนกประเภท (Classification)
  • การหาความสัมพันธ์ระหวางสเปสกับสเปสและสเปสกบเวลา (Spacs / Spacs Reation and Space /Time Relation)
  • การคํานวน(Using Number)
  • การจัดทําและสื่อความหมายข้อมูล (Organizing Data and Communication)
  • การลงความคิดเห็นจากข้อมูล(Infeaing)
  • การพยากรณ์(Prediction)
*ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ระดับพัฒนาการ

  • การตั้งสมมติฐาน (Formulating Hypothesis)
  • การกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ (Defining Operation)
  • การกาหนดและควบคุมตัวแปร (Identifying and Controlling Variables)
  • การทดลอง(Experiment)
  • การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป (Interperting Data and Making


*การจัดประสบการณ์แบบการศึกษานอกสถานที่

เป็นการจัดประสบการณ์การศึกษานอกห้องเรียน ทําให้เด็กได้ศึกษาจากสภาพจริงจากสภาพจริง สถานที จริง การออกไปสัมผัสพบสิ งเหล่านี 0 ทําให้เด็กสนุกสนาน อย่างไม่รู้จักเบื อหน่าย ได้รับความรู้และจดจําได้นาน


*คุณค่าของการจัดประสบการณ์แบบการศึกษานอกสถานที่


  • ช่วยให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ตรง
  • ช่วยให้บทเรียนมีความหมายยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ฝึกฝนระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา และมนุษยสัมพันธ์
  • ช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันทั้งก่อนและหลังการทำกิจกรรมทัศนศึกษา
  • ช่วยให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรมการเรียนอย่างเพลิดเพลิน
  • ช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปในลักษณะบูรณาการ
  • การจัดประสบการณ์แบบการศึกษานอกสถานที่
                      การศึกษานอกสถานที่ในระยะใกล้
                      การศึกษานอกสถานที่ในระยะทางขนาดกลาง
                      การศึกษานอกสถานที่ในระยะทางไกล




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น